โดย สมาคมวงโยธวาทิตแห่งประเทศไทย ร่วมกับ องค์การวงโยธวาทิตโลก
Local Traditional Music
เพื่อยกระดับการประกวดวงดนตรีลูกทุ่งของไทยให้ก้าวสู่มาตรฐานสากลและส่งเสริมพัฒนาการของวงการอย่างยั่งยืน สมาคมวงโยธวาทิตแห่งประเทศไทย จึงได้ร่วมกับองค์การวงโยธวาทิตโลก (World Marching Band Organization) ในการบุกเบิกออกแบบและพัฒนาระบบการตัดสินรูปแบบใหม่ที่ครอบคลุมทุกมิติของการแสดง โดยมีเป้าหมายสูงสุดเพื่อเปลี่ยนผ่านการประกวดไปสู่เวทีแห่ง 'ศิลปะการแสดงแบบองค์รวม' (Total Performing Arts Competition) ที่แท้จริง เกณฑ์การตัดสินใหม่นี้ถูกออกแบบมาให้สามารถอธิบายได้ในทุกส่วนและนำไปพัฒนาต่อยอดได้จริง โดยมีหัวใจสำคัญ 3 ส่วนคือ Music, Visual, และ General Effect โดยมีวิธีคิดดังนี้
1. เพื่อสร้างการตัดสินที่ครอบคลุมและยุติธรรมยิ่งขึ้น
ถ้าการตัดสินมีแค่ "Sing" (การร้อง) และ "Musicality" (การบรรเลง) วงที่นักดนตรีเล่นเก่งและนักร้องเสียงดี แต่การแสดงโดยรวมไม่น่าสนใจ ไม่มีอะไรน่าจดจำ ก็อาจจะชนะไปได้ ในทางกลับกัน วงที่โชว์ตระการตาแต่ดนตรีไม่มีคุณภาพก็อาจจะไม่ได้รับการประเมินที่ถูกต้องเช่นเดียวกัน จึงต้องมีระบบที่ดีเพื่ออุดช่องว่างนี้ ดังนั้นระบบที่แบ่ง Caption ออกอย่างชัดเจนในแต่ละส่วนจะช่วยอธิบายและทำให้กรรมการตัดสินนั้นสามารถตัดสินในความถนัดของตนเองได้อย่างมีปนะสิทธิภาพ เพราะในความเป็นจริงผู้ที่ทำหน้าที่คณะกรรมการตัดสินทุกท่านจะมีความถนัดเฉพาะด้านแตกต่างกันออกไป โดยจะมีการตั้งถึงคำถามต่อไปนี้ เพื่อนำมาเป็นแนวทางในการออกแบบระบบการตัดสินให้ตรงกับบริบทและรูปแบบของวงดนตรีลูกทุ่ง
- ดนตรีที่เล่นยอดเยี่ยมนั้น ส่งผลในด้านศาสตร์ของดนตรี ไม่ว่าในส่วนของการร้อง (Sing) หรือการปฎิบัติเครื่องดนตรี และการบรรเลงเพลงออกมา (Musicality) มีคุณภาพเพียงใด?
- ภาพที่เห็นสวยงามนั้น ไม่ว่าจะการออกแบบท่าเต้นของหางเครื่อง และเคลื่อนไหวต่าง ๆ นั้นมีทักษะและคุณภาพเพียงใด? (Visual)
- เมื่อทุกอย่างรวมกันแล้ว สร้างความประทับใจและ ถ่ายทอดความรู้สึกได้ทรงพลังแค่ไหน? (General Effect)
ทั้งหมดนี้คือการทำให้การตัดสินครอบคลุมทุกมิติและมีความยุติธรรมต่อทุกความพยายามที่วงได้ทุ่มเทลงไปในโชว์
2. เพื่อส่งเสริม "ความสมดุล" ของการเป็นวงดนตรี
หัวใจของการเป็น "วง" คือการทำงานร่วมกัน เกณฑ์นี้บังคับให้ทุกองค์ประกอบต้องมีความสมดุลและส่งเสริมซึ่งกันและกัน ป้องกันการ "แบก" ของคนใดคนหนึ่ง: นักร้องที่ร้องดีที่สุดในประเทศ แต่ถ้าดนตรีและการนำเสนอไม่ส่งเสริม ก็ไม่สามารถได้คะแนน General Effect สูงได้ ป้องกันการมีดีแค่ "เปลือกนอก": หางเครื่องที่เต้นได้พร้อมเพรียงและสวยงามที่สุด แต่ถ้าดนตรีไม่สื่ออารมณ์หรือไม่เข้ากัน ภาพที่สวยงามนั้นก็จะดูไร้ความหมาย ระบบนี้กระตุ้นให้ทุกวงต้องพัฒนาไปพร้อมกันทั้ง "ศาสตร์" (ความสามารถทางดนตรี) และ "ศิลป์" (ความสามารถทางการแสดง)
3. เพื่อยกระดับมาตรฐานและกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์
การมีเกณฑ์ General Effect เป็นการผลักดันให้วงดนตรีลูกทุ่งก้าวข้ามกรอบเดิมๆ มากกว่าการเล่นให้ "ถูกต้อง": แทนที่จะแค่เล่นเพลงให้ถูกต้องตามโน้ต วงดนตรีต้องคิดว่าจะ "ออกแบบ" การเรียบเรียงดนตรีอย่างไรให้สร้างความตื่นเต้นและน่าจดจำ มากกว่าการเต้นให้ "พร้อมเพรียง": แทนที่จะแค่เต้นให้พร้อมกัน ทีมต้องคิดว่าจะออกแบบโชว์ การใช้เวที และเสื้อผ้าอย่างไรให้สามารถเล่าเรื่องและสร้างภาพที่ทรงพลังได้ ให้คุณค่ากับคอนเซปต์ (Concept) วงที่สามารถสร้างคอนเซปต์ของโชว์ที่ชัดเจน และนำเสนอออกมาได้อย่างสมบูรณ์ทั้งภาพและเสียง จะได้รับการยอมรับและได้คะแนนในส่วน General Effect สูง
สรุปโดยเปรียบเทียบ
ลองนึกภาพการทำอาหารจานหนึ่ง
- Sing & Musicality คือ คุณภาพของวัตถุดิบ และ เทคนิคการปรุง (เนื้อเกรดดี, ปรุงสุกกำลังเหมาะ)
- Visual คือ การจัดจาน และจัดวางสวยงาม แค่มองเห็นก็อยากรับประทานอาหารจานนั้นแล้ว)
- General Effect คือ รสชาติโดยรวมคำแรกที่เข้าปาก และ ความรู้สึกหลังทานจบ ว่า "อร่อยจนอยากกลับมากินอีก" หรือไม่
ดังนั้น การมี 3 ส่วนนี้จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการค้นหาวงดนตรีลูกทุ่งที่ไม่ได้เป็นเพียง "วงดนตรีที่เล่นเก่ง" แต่เป็น "สุดยอดคณะนักแสดง" (The Ultimate Entertainer) ที่สามารถสร้างสรรค์โชว์ที่สมบูรณ์แบบและตราตรึงอยู่ในใจของผู้ชมได้อย่างแท้จริง
การแบ่งสัดส่วนของคะแนนทั้ง 3 ส่วน
รายละเอียดในด้าน Music (ประสิทธิผลดนตรี)
ในการประกวดวงดนตรีลูกทุ่งเวทีต่างๆ หัวใจสำคัญที่กรรมการใช้ในการตัดสินและชี้วัดคุณภาพของวงไม่ได้มีเพียงแค่ความสนุกสนานครื้นเครง แต่ยังลงลึกไปในรายละเอียดขององค์ประกอบด้านดนตรี ซึ่งโดยหลักแล้วจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนสำคัญ คือ Sing (การขับร้อง) และ Musicality (ความเป็นดนตรี) ซึ่งแต่ละส่วนมีเกณฑ์การพิจารณาที่แตกต่างกันไป ดังนี้
Sing เสียงร้องที่สมบูรณ์แบบและสื่ออารมณ์
ในส่วนของ "Sing" หรือ ด้านการขับร้อง จะเป็นการประเมินความสามารถของนักร้องนำเป็นหลัก โดยไม่ได้มองแค่ว่าร้องเพลงได้ไพเราะเพียงอย่างเดียว แต่ครอบคลุมถึงเทคนิคและองค์ประกอบต่างๆ ที่ส่งเสริมให้บทเพลงนั้นสมบูรณ์ที่สุด เกณฑ์การให้คะแนนในส่วนนี้มักจะประกอบไปด้วย
- คุณภาพของเสียง (Vocal Quality) น้ำเสียงของนักร้องมีความไพเราะ กังวาน สดใส และมีพลังหรือไม่ เหมาะสมกับบทเพลงลูกทุ่งที่เลือกมาขับร้อง
- ความถูกต้องของทำนองและจังหวะ (Pitch and Rhythm) การร้องตรงตามระดับเสียง (ไม่เพี้ยน) และรักษาจังหวะของเพลงได้อย่างแม่นยำตลอดทั้งบทเพลง
- อักขรวิธีและความชัดเจนของการออกเสียง (Diction and Articulation) การออกเสียงพยัญชนะ สระ และคำควบกล้ำในภาษาไทยอย่างถูกต้องและชัดเจน โดยเฉพาะ "ร" และ "ล" ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่สำคัญของเพลงลูกทุ่ง
- เทคนิคและลีลาการขับร้อง (Vocal Technique and Style) การใช้เทคนิคต่างๆ ในการร้อง เช่น การเอื้อน การหางเสียง การใช้ลมหายใจ (Dynamic) การผ่อนหนักเบา ซึ่งล้วนเป็นเอกลักษณ์และเสน่ห์ของการร้องเพลงลูกทุ่ง
- การถ่ายทอดอารมณ์เพลง (Emotional Delivery) ความสามารถในการสื่อสารอารมณ์และความหมายของบทเพลงไปสู่ผู้ฟังได้อย่างลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเป็นเพลงช้าที่เศร้าซึ้ง หรือเพลงเร็วที่สนุกสนาน นักร้องต้องสามารถทำให้ผู้ฟังคล้อยตามได้
- บุคลิกภาพและการแสดงออก (Stage Presence) การแสดงออกทางสีหน้า ท่าทาง และการสื่อสารกับผู้ชมบนเวทีอย่างเป็นธรรมชาติและเหมาะสมกับบทเพลง
Musicality ความเป็นเลิศของดนตรีและวงโดยรวม
ในส่วนของ "Musicality" หรือ ด้านความเป็นดนตรี จะเป็นการประเมินภาพรวมของวงดนตรีทั้งหมด ไม่ใช่แค่การบรรเลงเครื่องดนตรีแต่ละชิ้น แต่คือการผสมผสานและเรียบเรียงออกมาเป็นผลงานเพลงที่สมบูรณ์และมีความเป็นเลิศทางดนตรี เกณฑ์การให้คะแนนหลักๆ ในส่วนนี้ ได้แก่
- การเรียบเรียงเสียงประสาน (Arrangement) การออกแบบและเรียบเรียงดนตรีมีความคิดสร้างสรรค์ เหมาะสมกับบทเพลงและนักร้องหรือไม่ การแบ่งท่อนดนตรี (Intro, Solo, Ending) มีความน่าสนใจและส่งเสริมให้เพลงมีความโดดเด่นมากขึ้น
- ความสามารถและเทคนิคการบรรเลง (Instrumental Proficiency) นักดนตรีแต่ละคนมีความสามารถในการเล่นเครื่องดนตรีของตนเองในระดับสูง มีความแม่นยำ และสามารถแสดงเทคนิคที่น่าสนใจออกมาได้
- ความพร้อมเพรียงของวง (Ensemble) การบรรเลงของเครื่องดนตรีทุกชิ้นมีความพร้อมเพรียง กลมกลืน และเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ไม่มีการเล่นที่โดดหรือเหลื่อมล้ำกัน ซึ่งแสดงถึงการฝึกซ้อมมาเป็นอย่างดี
- ความสมดุลของเสียง (Balance) และ การผสมเสียง (Mix) ของเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นและเสียงร้องมีความสมดุลพอดี ไม่มีเสียงใดเสียงหนึ่งดังหรือเบาจนเกินไป ทำให้ภาพรวมของเสียงที่ออกมามีความไพเราะน่าฟัง
- ความคิดสร้างสรรค์ทางดนตรี (Musical Creativity) การใส่ลูกเล่น ท่อนโซโล่ หรือการตีความบทเพลงในแนวทางใหม่ๆ ที่ยังคงความเป็นลูกทุ่ง แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์และความสามารถของวง
- ภาพรวมของการนำเสนอ (Overall Presentation) การแสดงโดยรวมของทั้งวงมีความน่าสนใจและสอดคล้องกัน ตั้งแต่การยืนตำแหน่งบนเวที ไปจนถึงการส่งและรับอารมณ์ระหว่างนักร้องและนักดนตรี
โดยสรุปแล้ว การประกวดวงดนตรีลูกทุ่งที่ประสบความสำเร็จนั้น จำเป็นต้องมีความยอดเยี่ยมในทั้งสองส่วน คือมี นักร้อง (Sing) ที่มีความสามารถในการขับร้องอย่างครบเครื่อง และมี วงดนตรี (Musicality) ที่แน่นด้วยฝีมือการบรรเลงและการเรียบเรียงที่สร้างสรรค์ ซึ่งเมื่อสองส่วนนี้ผสมผสานกันอย่างลงตัว ก็จะเกิดเป็นโชว์ที่สมบูรณ์แบบและสามารถสร้างความประทับใจให้กับคณะกรรมการและผู้ชมได้อย่างแท้จริง
การแบ่งสัดส่วนของคะแนนในด้าน Sing และ Musicality
รายละเอียดในด้าน Visual (ประสิทธิผลด้านภาพ)
Visual ในวงดนตรีลูกทุ่ง ไม่ใช่แค่เรื่องของ "หางเครื่อง" หรือแดนเซอร์เท่านั้น แต่คือ ทุกสิ่งที่ผู้ชมมองเห็นบนเวที ซึ่งต้องทำงานประสานกันเพื่อส่งเสริมอารมณ์เพลงและสร้างความประทับใจ โดยองค์ประกอบหลักๆ ของ Visual สามารถอธิบายได้ดังนี้
การออกแบบท่าทางและการเคลื่อนไหว (Choreography & Staging)
เป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของทุกคนบนเวที
- การออกแบบท่าเต้น (Choreography) ความสวยงาม ความคิดสร้างสรรค์ และความแข็งแรงของท่าเต้นที่นักร้องและแดนเซอร์ใช้ สื่อสารอารมณ์และเรื่องราวของเพลงได้ดีเพียงใด
- การแปรแถว (Formations / Drill) การจัดวางตำแหน่งและเคลื่อนที่ของนักแสดงและนักดนตรีบนเวที (Blocking) เพื่อสร้างภาพที่สวยงาม แปลกใหม่ และมีความหมาย
- การใช้พื้นที่เวที (Use of Stage) การใช้พื้นที่บนเวทีทั้งหมดอย่างชาญฉลาด ไม่กระจุกอยู่แค่จุดใดจุดหนึ่ง ทำให้การแสดงดูมีมิติและน่าสนใจ
- การมีส่วนร่วมของนักดนตรี (Musician Involvement) ในการประกวดสมัยใหม่ นักดนตรีไม่ได้ยืนนิ่งๆ อีกต่อไป อาจจะเข้าไปมีส่วนร่วมกับการแสดง
คุณภาพและความสามารถในการปฏิบัติ (Performance Quality)
เป็นตัวชี้วัดว่าสิ่งที่ได้ปฎิบัตออกมานั้น มีคุณภาพเพียงใด
- พื้นฐานที่ถูกต้องและความสามารถ (Technique and Skill) หลักการที่ถูกกำหนดไว้ว่าเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและถูกต้องในการกระทำสิ่งนั้นๆ เช่นพื้นบานการเต้นที่ใช้ร่างกายได้อย่างถูกต้องตามหลักของกายภาพ ความเป็นธรรมชาติจนนำไปสู่การมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม
- ความพร้อมเพรียงและความแม่นยำ (Uniformity / Precision) ในการเคลื่อนไหวของนักแสดงทุกคน เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้โชว์ดูดี มีความสวยงาน และบ่งบอกถึงพื้นฐานที่ถูกต้องและความสามารถ (Technique and Skill) ที่ดีเยี่ยม ซึ่งจะส่งผลตามกันมาเป็นลำดับ
- ความสะอาดและความชัดเจน (Clarity & Cleanliness) ภาพรวมของการแสดงต้องดูสะอาดตา การเคลื่อนไหวชัดเจน ท่าเต้นคมชัด การแปรแถวไม่ชนกัน ซึ่งแสดงถึงการฝึกซ้อมมาอย่างดี
ตัวอย่าง วงที่มีนักร้องยอดเยี่ยม การบรรเพลงของนักดนตรีทำได้อย่างสมบูรณ์ แต่หางเครื่องเต้นไม่พร้อมเพรียงกัน การเปลี่ยนตำแหน่งต่าง ๆ ทำได้ไม่ดี ก็อาจทำให้คะแนน Visual ลดลงได้ หรือในทางตรงกันข้ามเช่นเดียวกัน
การแบ่งสัดส่วนของคะแนนในด้าน Visual
General Effect (GE) (ประสิทธิผลโดยรวม/ความประทับใจโดยรวม)
General Effect หรือที่มักเรียกสั้นๆ ว่า "GE" เป็นหัวใจที่สำคัญที่สุดและมักจะมีสัดส่วนคะแนนมากที่สุด เป็นการบูรณาการระหว่าง Music และ Visual เข้าด้วยกัน เพื่อตอบคำถามสุดท้ายว่า โดยรวมแล้วโชว์นี้สร้างความประทับใจได้มากเพียงใด?
- ความเป็นเอกภาพของโชว์ (Unity and Cohesion) ดนตรี (Music) และ ภาพ (Visual) ที่นำเสนอ สอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่ ทั้งสองส่วนทำงานร่วมกันเพื่อเล่าเรื่องราวหรือสื่อสารคอนเซปต์เดียวกันได้อย่างไร้รอยต่อหรือไม่
- การสื่อสารและการเข้าถึงผู้ชม (Audience Communication and Engagement) การแสดงทั้งหมดสามารถดึงดูดอารมณ์และสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้ชมได้มากเพียงใด สามารถทำให้ผู้ชมรู้สึกตื่นเต้น สนุกสนาน หรือซาบซึ้งไปกับโชว์ได้หรือไม่
- ความน่าจดจำและผลกระทบหลังจบโชว์ (Memorability and Impact) เมื่อการแสดงจบลง มีฉากหรือท่อนไหนที่ยังคงติดอยู่ในความทรงจำหรือไม่ โชว์นี้สร้างความรู้สึก "ว้าว" หรือความประทับใจที่แตกต่างจากวงอื่นได้มากน้อยเพียงใด
- ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม (Creativity and Innovation) วงได้นำเสนอสิ่งใหม่ๆ ที่น่าสนใจและแตกต่างไปจากมาตรฐานเดิมๆ หรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นการตีความเพลง การออกแบบโชว์ หรือการผสมผสานแนวดนตรี
- พลังงานและความสมบูรณ์ของการแสดง (Energy and Completeness) พลังงานที่ส่งออกมาจากทั้งวงตั้งแต่ต้นจนจบมีความสม่ำเสมอและทรงพลังหรือไม่ ภาพรวมทั้งหมดของโชว์ดูกลมกล่อม สมบูรณ์ และจบลงอย่างน่าประทับใจหรือไม่
- บุคลิกภาพและการแสดงออกทางสีหน้า (Expression and Stage Presence) พลังงานโดยรวมของวงที่สื่อสารออกมาทางภาพเป็นอย่างไร ทุกคนบนเวทีแสดงออกทางสีหน้าและอารมณ์ที่สอดคล้องกับเพลงหรือไม่ สามารถดึงดูดสายตาของผู้ชมได้ตลอดการแสดงหรือไม่
การแบ่งสัดส่วนของคะแนนในด้าน General Effect
สรุป
ระบบที่มีการแบ่งสัดส่วน (Caption) อย่างชัดเจน "Music - Visual - General Effect" คือการไปสู่การประเมิน "ศิลปะของการแสดง" อย่างแท้จริง วงดนตรีลูกทุ่งที่ประสบความสำเร็จในเวทีระดับสูง จึงต้องเป็นวงที่ไม่ได้มีเพียงฝีมือ แต่ต้องเป็น "นักเล่าเรื่อง" ที่ยอดเยี่ยม สามารถใช้ทั้งเสียงดนตรีและภาพบนเวทีเพื่อสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำและส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของผู้ชมได้อย่างสมบูรณ์แบบ และจะช่วยให้มีการตระหนักและให้ความสำคัญถึงการพัฒนาในทุกส่วนของวงไปพร้อม ๆ กัน เพราะหากมีส่วนใดส่วนหนึงที่ไม่มีคุณภาพเพียงพอ คะแนนในส่วนนั้นก็จะหายไป
นอกจากนี้ระบบที่มีการแบ่งสัดส่วนที่ชัดเจนจะทำให้วงตระหนักได้่ว่าส่วนไหนที่ดีเยี่ยมและส่วนไหนที่ต้องปรับปรุง รวมทั้งจะเป็นการนำไปสู่การตัดสินที่มีมาตรฐานและสามารถอธิบายเหตุผลของคะแนนได้่เป็นอย่างดี
กล่าวโดยสรุปได้ดังนี้
- Music / Visual คือ การวิเคราะห์ (Analyze)
- General Effect คือ การรับรู้และตอบสนอง (React)
สรุปภาพรวมสัดส่วนการให้คะแนน
ภาพแสดง Recap ของคะแนน ทั้ง 4 ส่วน และจะใช้กรรมการตัดสินทั้งหมด 4 ท่าน ตามความถนัดในแต่ละด้าน
การประกวดวงดนตรีลูกทุ่งแห่งประเทศไทย
90/689 หมู่ 5 ต.ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 11120
088-255-5003
info@tlmc.or.th